ตัวประกอบของ 8785 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8785
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8785 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8785 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8785 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8785 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8785 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 7, 35, 251, 1255, 1757, 8785
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8785 ÷ 1 | = | 8785 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 5 | = | 1757 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 7 | = | 1255 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 35 | = | 251 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 251 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 1255 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 1757 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
8785 ÷ 8785 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8785
1 x 8785 | = | 8785 |
5 x 1757 | = | 8785 |
7 x 1255 | = | 8785 |
35 x 251 | = | 8785 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8785
1 + 5 + 7 + 35 + 251 + 1255 + 1757 + 8785 = 12096
▶ ตัวประกอบของ 8785 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 251
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8785 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8785 = 5 x 7 x 251
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8785 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8785 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8785 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1757
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8785
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8785 แบบที่หนึ่ง
- 8785
- 35
- 5
- 7
- 251
- 35
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8785 แบบที่สอง
- 8785
- 5
- 1757
- 7
- 251
ดังนั้น 8785 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8785 =
5 x 7 x 251
2. การแยกตัวประกอบของ 8785 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8785 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8785 นั้นก็คือ 5, 7, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8785
5)87857)1757251)2511ดังนั้น 8785 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8785 = 5 x 7 x 251วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8785
1แยกตัวประกอบของ 8785 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 25112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8785 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8785 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8785 นั้นก็คือ 5, 7, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8785
5
)8785
7
)1757
251
)251
1
ดังนั้น 8785 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8785 = 5 x 7 x 251
1แยกตัวประกอบของ 8785 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 2511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8785 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8785 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇