ตัวประกอบของ 8684 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8684
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8684 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8684 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8684 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8684 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8684 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 167, 334, 668, 2171, 4342, 8684
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 8684 ÷ 1 | = | 8684 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 2 | = | 4342 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 4 | = | 2171 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 13 | = | 668 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 26 | = | 334 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 52 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 167 | = | 52 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 334 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 668 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 2171 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 4342 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 8684 ÷ 8684 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8684
| 1 x 8684 | = | 8684 |
| 2 x 4342 | = | 8684 |
| 4 x 2171 | = | 8684 |
| 13 x 668 | = | 8684 |
| 26 x 334 | = | 8684 |
| 52 x 167 | = | 8684 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8684
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 167 + 334 + 668 + 2171 + 4342 + 8684 = 16464
▶ ตัวประกอบของ 8684 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8684 = 2 x 2 x 13 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8684 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8684 = 22 x 13 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8684 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8684 = 22 x 13 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8684 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8684 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8684 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4342
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8684
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8684 แบบที่หนึ่ง
- 8684
- 52
- 4
- 2
- 2
- 13
- 4
- 167
- 52
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8684 แบบที่สอง
- 8684
- 2
- 4342
- 2
- 2171
- 13
- 167
ดังนั้น 8684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8684 =
2 x 2 x 13 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8684 =
22 x 13 x 167 หรือ 22 x 131 x 1671
2. การแยกตัวประกอบของ 8684 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8684 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8684 นั้นก็คือ 2, 13, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8684
2)86842)434213)2171167)1671ดังนั้น 8684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8684 = 2 x 2 x 13 x 167หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8684 = 22 x 13 x 167 หรือ 22 x 131 x 1671วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8684
1แยกตัวประกอบของ 8684 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8684 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8684 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8684 นั้นก็คือ 2, 13, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8684
2
)8684
2
)4342
13
)2171
167
)167
1
ดังนั้น 8684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8684 = 2 x 2 x 13 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8684 = 22 x 13 x 167 หรือ 22 x 131 x 1671
1แยกตัวประกอบของ 8684 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8684 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8684 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇