ตัวประกอบของ 8498 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8498
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8498 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8498 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8498 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8498 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8498 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 607, 1214, 4249, 8498
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8498 ÷ 1 | = | 8498 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 2 | = | 4249 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 7 | = | 1214 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 14 | = | 607 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 607 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 1214 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 4249 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8498 ÷ 8498 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8498
1 x 8498 | = | 8498 |
2 x 4249 | = | 8498 |
7 x 1214 | = | 8498 |
14 x 607 | = | 8498 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8498
1 + 2 + 7 + 14 + 607 + 1214 + 4249 + 8498 = 14592
▶ ตัวประกอบของ 8498 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 607
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8498 = 2 x 7 x 607
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8498 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8498 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8498 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4249
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8498
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8498 แบบที่หนึ่ง
- 8498
- 14
- 2
- 7
- 607
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8498 แบบที่สอง
- 8498
- 2
- 4249
- 7
- 607
ดังนั้น 8498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8498 =
2 x 7 x 607
2. การแยกตัวประกอบของ 8498 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8498 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8498 นั้นก็คือ 2, 7, 607 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8498
2)84987)4249607)6071ดังนั้น 8498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8498 = 2 x 7 x 607วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8498
1แยกตัวประกอบของ 8498 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 60712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 607 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8498 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8498 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8498 นั้นก็คือ 2, 7, 607 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8498
2
)8498
7
)4249
607
)607
1
ดังนั้น 8498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8498 = 2 x 7 x 607
1แยกตัวประกอบของ 8498 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 6071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 607 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8498 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8498 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇