ตัวประกอบของ 66005 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 66005
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 66005 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 66005 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 66005 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 66005 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 66005 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 43, 215, 307, 1535, 13201, 66005
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
66005 ÷ 1 | = | 66005 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 5 | = | 13201 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 43 | = | 1535 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 215 | = | 307 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 307 | = | 215 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 1535 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 13201 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
66005 ÷ 66005 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 66005
1 x 66005 | = | 66005 |
5 x 13201 | = | 66005 |
43 x 1535 | = | 66005 |
215 x 307 | = | 66005 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 66005
1 + 5 + 43 + 215 + 307 + 1535 + 13201 + 66005 = 81312
▶ ตัวประกอบของ 66005 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 43, 307
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 66005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66005 = 5 x 43 x 307
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 66005 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 66005 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 66005 มา 1 คู่ เช่น 5 x 13201
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66005
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66005 แบบที่หนึ่ง
- 66005
- 215
- 5
- 43
- 307
- 215
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66005 แบบที่สอง
- 66005
- 5
- 13201
- 43
- 307
ดังนั้น 66005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66005 =
5 x 43 x 307
2. การแยกตัวประกอบของ 66005 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 66005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66005 นั้นก็คือ 5, 43, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66005
5)6600543)13201307)3071ดังนั้น 66005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้66005 = 5 x 43 x 307วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 66005
1แยกตัวประกอบของ 66005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 431 x 30712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66005 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 66005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66005 นั้นก็คือ 5, 43, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66005
5
)66005
43
)13201
307
)307
1
ดังนั้น 66005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66005 = 5 x 43 x 307
1แยกตัวประกอบของ 66005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 431 x 3071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66005 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 66005 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇