ตัวประกอบของ 6286 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6286
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6286 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6286 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6286 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6286 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6286 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 449, 898, 3143, 6286
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6286 ÷ 1 | = | 6286 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 2 | = | 3143 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 7 | = | 898 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 14 | = | 449 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 449 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 898 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 3143 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 6286 ÷ 6286 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6286
| 1 x 6286 | = | 6286 |
| 2 x 3143 | = | 6286 |
| 7 x 898 | = | 6286 |
| 14 x 449 | = | 6286 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6286
1 + 2 + 7 + 14 + 449 + 898 + 3143 + 6286 = 10800
▶ ตัวประกอบของ 6286 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 449
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6286 = 2 x 7 x 449
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6286 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6286 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6286 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3143
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6286
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6286 แบบที่หนึ่ง
- 6286
- 14
- 2
- 7
- 449
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6286 แบบที่สอง
- 6286
- 2
- 3143
- 7
- 449
ดังนั้น 6286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6286 =
2 x 7 x 449
2. การแยกตัวประกอบของ 6286 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6286 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6286 นั้นก็คือ 2, 7, 449 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6286
2)62867)3143449)4491ดังนั้น 6286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6286 = 2 x 7 x 449วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6286
1แยกตัวประกอบของ 6286 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 44912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 449 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6286 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6286 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6286 นั้นก็คือ 2, 7, 449 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6286
2
)6286
7
)3143
449
)449
1
ดังนั้น 6286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6286 = 2 x 7 x 449
1แยกตัวประกอบของ 6286 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 4491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 449 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6286 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6286 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇