ตัวประกอบของ 5117 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5117
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5117 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5117 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5117 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5117 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5117 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 17, 43, 119, 301, 731, 5117
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5117 ÷ 1 | = | 5117 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 7 | = | 731 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 17 | = | 301 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 43 | = | 119 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 119 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 301 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 731 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
5117 ÷ 5117 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5117
1 x 5117 | = | 5117 |
7 x 731 | = | 5117 |
17 x 301 | = | 5117 |
43 x 119 | = | 5117 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5117
1 + 7 + 17 + 43 + 119 + 301 + 731 + 5117 = 6336
▶ ตัวประกอบของ 5117 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 17, 43
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5117 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5117 = 7 x 17 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5117 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5117 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5117 มา 1 คู่ เช่น 7 x 731
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5117
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5117 แบบที่หนึ่ง
- 5117
- 43
- 119
- 7
- 17
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5117 แบบที่สอง
- 5117
- 7
- 731
- 17
- 43
ดังนั้น 5117 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5117 =
7 x 17 x 43
2. การแยกตัวประกอบของ 5117 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5117 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5117 นั้นก็คือ 7, 17, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5117
7)511717)73143)431ดังนั้น 5117 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5117 = 7 x 17 x 43วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5117
1แยกตัวประกอบของ 5117 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 171 x 4312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5117 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5117 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5117 นั้นก็คือ 7, 17, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5117
7
)5117
17
)731
43
)43
1
ดังนั้น 5117 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5117 = 7 x 17 x 43
1แยกตัวประกอบของ 5117 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 171 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5117 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5117 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇