โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 2637 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2637

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 2637 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 2637 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 293, 879, 2637
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2637 ÷ 1=2637เหลือเศษ 0
2637 ÷ 3=879เหลือเศษ 0
2637 ÷ 9=293เหลือเศษ 0
2637 ÷ 293=9เหลือเศษ 0
2637 ÷ 879=3เหลือเศษ 0
2637 ÷ 2637=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2637
1 x 2637
3 x 879
9 x 293
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2637
1 + 3 + 9 + 293 + 879 + 2637 = 3822
ตัวประกอบของ 2637 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 293
การแยกตัวประกอบคืออะไร

2637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

2637 = 3 x 3 x 293
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2637 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2637 = 32 x 293
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 2637 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2637 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2637 มา 1 คู่ เช่น 3 x 879
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2637
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2637 แบบที่หนึ่ง
  • 2637
    • 9
      • 3
      • 3
    • 293

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2637 แบบที่สอง
  • 2637
    • 3
    • 879
      • 3
      • 293
ดังนั้น 2637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2637 = 3 x 3 x 293
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2637 = 32 x 293 หรือ 32 x 2931

2. การแยกตัวประกอบของ 2637 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 2637 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2637 นั้นก็คือ 3, 293 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2637

3
)2637
3
)879
293
)293
1
ดังนั้น 2637 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2637 = 3 x 3 x 293
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2637 = 32 x 293 หรือ 32 x 2931

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2637

1แยกตัวประกอบของ 2637 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 2931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 293 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2637 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2637 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇