โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 12152 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 12152

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 12152 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 12152 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 31, 49, 56, 62, 98, 124, 196, 217, 248, 392, 434, 868, 1519, 1736, 3038, 6076, 12152
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
12152 ÷ 1=12152เหลือเศษ 0
12152 ÷ 2=6076เหลือเศษ 0
12152 ÷ 4=3038เหลือเศษ 0
12152 ÷ 7=1736เหลือเศษ 0
12152 ÷ 8=1519เหลือเศษ 0
12152 ÷ 14=868เหลือเศษ 0
12152 ÷ 28=434เหลือเศษ 0
12152 ÷ 31=392เหลือเศษ 0
12152 ÷ 49=248เหลือเศษ 0
12152 ÷ 56=217เหลือเศษ 0
12152 ÷ 62=196เหลือเศษ 0
12152 ÷ 98=124เหลือเศษ 0
12152 ÷ 124=98เหลือเศษ 0
12152 ÷ 196=62เหลือเศษ 0
12152 ÷ 217=56เหลือเศษ 0
12152 ÷ 248=49เหลือเศษ 0
12152 ÷ 392=31เหลือเศษ 0
12152 ÷ 434=28เหลือเศษ 0
12152 ÷ 868=14เหลือเศษ 0
12152 ÷ 1519=8เหลือเศษ 0
12152 ÷ 1736=7เหลือเศษ 0
12152 ÷ 3038=4เหลือเศษ 0
12152 ÷ 6076=2เหลือเศษ 0
12152 ÷ 12152=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 12152
1 x 12152
2 x 6076
4 x 3038
7 x 1736
8 x 1519
14 x 868
28 x 434
31 x 392
49 x 248
56 x 217
62 x 196
98 x 124
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 12152
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 31 + 49 + 56 + 62 + 98 + 124 + 196 + 217 + 248 + 392 + 434 + 868 + 1519 + 1736 + 3038 + 6076 + 12152 = 27360
ตัวประกอบของ 12152 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 31
การแยกตัวประกอบคืออะไร

12152 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

12152 = 2 x 2 x 2 x 7 x 7 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 12152 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
12152 = 23 x 72 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 12152 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 12152 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 12152 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6076
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 12152
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 12152 แบบที่หนึ่ง
  • 12152
    • 98
      • 7
      • 14
        • 2
        • 7
    • 124
      • 4
        • 2
        • 2
      • 31

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 12152 แบบที่สอง
  • 12152
    • 2
    • 6076
      • 2
      • 3038
        • 2
        • 1519
          • 7
          • 217
            • 7
            • 31
ดังนั้น 12152 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
12152 = 2 x 2 x 2 x 7 x 7 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
12152 = 23 x 72 x 31 หรือ 23 x 72 x 311

2. การแยกตัวประกอบของ 12152 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 12152 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 12152 นั้นก็คือ 2, 7, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 12152

2
)12152
2
)6076
2
)3038
7
)1519
7
)217
31
)31
1
ดังนั้น 12152 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
12152 = 2 x 2 x 2 x 7 x 7 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
12152 = 23 x 72 x 31 หรือ 23 x 72 x 311

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 12152

1แยกตัวประกอบของ 12152 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 72 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 3 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 12152 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 12152 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇