ตัวประกอบของ 10622 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10622
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10622 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10622 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10622 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10622 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10622 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 47, 94, 113, 226, 5311, 10622
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10622 ÷ 1 | = | 10622 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 2 | = | 5311 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 47 | = | 226 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 94 | = | 113 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 113 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 226 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 5311 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10622 ÷ 10622 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10622
1 x 10622 | = | 10622 |
2 x 5311 | = | 10622 |
47 x 226 | = | 10622 |
94 x 113 | = | 10622 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10622
1 + 2 + 47 + 94 + 113 + 226 + 5311 + 10622 = 16416
▶ ตัวประกอบของ 10622 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 47, 113
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10622 = 2 x 47 x 113
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10622 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10622 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10622 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5311
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10622
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10622 แบบที่หนึ่ง
- 10622
- 94
- 2
- 47
- 113
- 94
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10622 แบบที่สอง
- 10622
- 2
- 5311
- 47
- 113
ดังนั้น 10622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10622 =
2 x 47 x 113
2. การแยกตัวประกอบของ 10622 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10622 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10622 นั้นก็คือ 2, 47, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10622
2)1062247)5311113)1131ดังนั้น 10622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10622 = 2 x 47 x 113วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10622
1แยกตัวประกอบของ 10622 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 11312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10622 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10622 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10622 นั้นก็คือ 2, 47, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10622
2
)10622
47
)5311
113
)113
1
ดังนั้น 10622 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10622 = 2 x 47 x 113
1แยกตัวประกอบของ 10622 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 1131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10622 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10622 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇