ตัวประกอบของ 10537 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10537
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10537 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10537 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 10537 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10537 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10537 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 41, 257, 10537
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 10537 ÷ 1 | = | 10537 | เหลือเศษ 0 |
| 10537 ÷ 41 | = | 257 | เหลือเศษ 0 |
| 10537 ÷ 257 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
| 10537 ÷ 10537 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10537
| 1 x 10537 | = | 10537 |
| 41 x 257 | = | 10537 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10537
1 + 41 + 257 + 10537 = 10836
▶ ตัวประกอบของ 10537 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
41, 257
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10537 = 41 x 257
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10537 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10537 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10537 มา 1 คู่ เช่น 41 x 257
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10537
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10537
- 10537
- 41
- 257
ดังนั้น 10537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10537 =
41 x 257
2. การแยกตัวประกอบของ 10537 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10537 นั้นก็คือ 41, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10537
41)10537257)2571ดังนั้น 10537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10537 = 41 x 257วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10537
1แยกตัวประกอบของ 10537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 411 x 25712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10537 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10537 นั้นก็คือ 41, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10537
41
)10537
257
)257
1
ดังนั้น 10537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10537 = 41 x 257
1แยกตัวประกอบของ 10537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 411 x 2571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10537 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10537 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇