ตัวประกอบของ 9498 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9498
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9498 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9498 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9498 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9498 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9498 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1583, 3166, 4749, 9498
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9498 ÷ 1 | = | 9498 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 2 | = | 4749 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 3 | = | 3166 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 6 | = | 1583 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 1583 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 3166 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 4749 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9498 ÷ 9498 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9498
1 x 9498 | = | 9498 |
2 x 4749 | = | 9498 |
3 x 3166 | = | 9498 |
6 x 1583 | = | 9498 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9498
1 + 2 + 3 + 6 + 1583 + 3166 + 4749 + 9498 = 19008
▶ ตัวประกอบของ 9498 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1583
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9498 = 2 x 3 x 1583
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9498 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9498 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9498 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4749
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9498
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9498 แบบที่หนึ่ง
- 9498
- 6
- 2
- 3
- 1583
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9498 แบบที่สอง
- 9498
- 2
- 4749
- 3
- 1583
ดังนั้น 9498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9498 =
2 x 3 x 1583
2. การแยกตัวประกอบของ 9498 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9498 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9498 นั้นก็คือ 2, 3, 1583 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9498
2)94983)47491583)15831ดังนั้น 9498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9498 = 2 x 3 x 1583วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9498
1แยกตัวประกอบของ 9498 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 158312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1583 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9498 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9498 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9498 นั้นก็คือ 2, 3, 1583 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9498
2
)9498
3
)4749
1583
)1583
1
ดังนั้น 9498 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9498 = 2 x 3 x 1583
1แยกตัวประกอบของ 9498 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 15831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1583 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9498 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9498 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇