ตัวประกอบของ 9474 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9474
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9474 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9474 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9474 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9474 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9474 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1579, 3158, 4737, 9474
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9474 ÷ 1 | = | 9474 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 2 | = | 4737 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 3 | = | 3158 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 6 | = | 1579 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 1579 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 3158 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 4737 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9474 ÷ 9474 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9474
1 x 9474 | = | 9474 |
2 x 4737 | = | 9474 |
3 x 3158 | = | 9474 |
6 x 1579 | = | 9474 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9474
1 + 2 + 3 + 6 + 1579 + 3158 + 4737 + 9474 = 18960
▶ ตัวประกอบของ 9474 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1579
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9474 = 2 x 3 x 1579
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9474 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9474 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9474 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4737
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9474
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9474 แบบที่หนึ่ง
- 9474
- 6
- 2
- 3
- 1579
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9474 แบบที่สอง
- 9474
- 2
- 4737
- 3
- 1579
ดังนั้น 9474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9474 =
2 x 3 x 1579
2. การแยกตัวประกอบของ 9474 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9474 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9474 นั้นก็คือ 2, 3, 1579 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9474
2)94743)47371579)15791ดังนั้น 9474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9474 = 2 x 3 x 1579วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9474
1แยกตัวประกอบของ 9474 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 157912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1579 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9474 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9474 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9474 นั้นก็คือ 2, 3, 1579 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9474
2
)9474
3
)4737
1579
)1579
1
ดังนั้น 9474 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9474 = 2 x 3 x 1579
1แยกตัวประกอบของ 9474 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 15791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1579 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9474 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9474 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇