ตัวประกอบของ 8957 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8957
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8957 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8957 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8957 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8957 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8957 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 13, 53, 169, 689, 8957
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8957 ÷ 1 | = | 8957 | เหลือเศษ 0 |
8957 ÷ 13 | = | 689 | เหลือเศษ 0 |
8957 ÷ 53 | = | 169 | เหลือเศษ 0 |
8957 ÷ 169 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
8957 ÷ 689 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
8957 ÷ 8957 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8957
1 x 8957 | = | 8957 |
13 x 689 | = | 8957 |
53 x 169 | = | 8957 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8957
1 + 13 + 53 + 169 + 689 + 8957 = 9882
▶ ตัวประกอบของ 8957 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 53
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8957 = 13 x 13 x 53
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8957 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8957 = 132 x 53
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8957 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8957 = 132 x 53
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8957 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8957 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8957 มา 1 คู่ เช่น 13 x 689
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8957
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8957 แบบที่หนึ่ง
- 8957
- 53
- 169
- 13
- 13
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8957 แบบที่สอง
- 8957
- 13
- 689
- 13
- 53
ดังนั้น 8957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8957 =
13 x 13 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8957 =
132 x 53 หรือ 132 x 531
2. การแยกตัวประกอบของ 8957 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8957 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8957 นั้นก็คือ 13, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8957
13)895713)68953)531ดังนั้น 8957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8957 = 13 x 13 x 53หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8957 = 132 x 53 หรือ 132 x 531วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8957
1แยกตัวประกอบของ 8957 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 132 x 5312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8957 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8957 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8957 นั้นก็คือ 13, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8957
13
)8957
13
)689
53
)53
1
ดังนั้น 8957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8957 = 13 x 13 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8957 = 132 x 53 หรือ 132 x 531
1แยกตัวประกอบของ 8957 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 132 x 531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8957 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8957 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇