ตัวประกอบของ 8323 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8323
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8323 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8323 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8323 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8323 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8323 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 29, 41, 203, 287, 1189, 8323
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8323 ÷ 1 | = | 8323 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 7 | = | 1189 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 29 | = | 287 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 41 | = | 203 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 203 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 287 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 1189 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
8323 ÷ 8323 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8323
1 x 8323 | = | 8323 |
7 x 1189 | = | 8323 |
29 x 287 | = | 8323 |
41 x 203 | = | 8323 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8323
1 + 7 + 29 + 41 + 203 + 287 + 1189 + 8323 = 10080
▶ ตัวประกอบของ 8323 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 29, 41
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8323 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8323 = 7 x 29 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8323 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8323 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8323 มา 1 คู่ เช่น 7 x 1189
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8323
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8323 แบบที่หนึ่ง
- 8323
- 41
- 203
- 7
- 29
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8323 แบบที่สอง
- 8323
- 7
- 1189
- 29
- 41
ดังนั้น 8323 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8323 =
7 x 29 x 41
2. การแยกตัวประกอบของ 8323 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8323 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8323 นั้นก็คือ 7, 29, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8323
7)832329)118941)411ดังนั้น 8323 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8323 = 7 x 29 x 41วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8323
1แยกตัวประกอบของ 8323 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 291 x 4112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8323 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8323 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8323 นั้นก็คือ 7, 29, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8323
7
)8323
29
)1189
41
)41
1
ดังนั้น 8323 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8323 = 7 x 29 x 41
1แยกตัวประกอบของ 8323 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 291 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8323 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8323 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇