ตัวประกอบของ 69537 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69537
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 69537 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 69537 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 69537 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 69537 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 69537 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 1783, 5349, 23179, 69537
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 69537 ÷ 1 | = | 69537 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 3 | = | 23179 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 13 | = | 5349 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 39 | = | 1783 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 1783 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 5349 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 23179 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 69537 ÷ 69537 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69537
| 1 x 69537 | = | 69537 |
| 3 x 23179 | = | 69537 |
| 13 x 5349 | = | 69537 |
| 39 x 1783 | = | 69537 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69537
1 + 3 + 13 + 39 + 1783 + 5349 + 23179 + 69537 = 99904
▶ ตัวประกอบของ 69537 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 1783
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 69537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69537 = 3 x 13 x 1783
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 69537 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69537 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69537 มา 1 คู่ เช่น 3 x 23179
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69537
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69537 แบบที่หนึ่ง
- 69537
- 39
- 3
- 13
- 1783
- 39
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69537 แบบที่สอง
- 69537
- 3
- 23179
- 13
- 1783
ดังนั้น 69537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69537 =
3 x 13 x 1783
2. การแยกตัวประกอบของ 69537 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 69537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69537 นั้นก็คือ 3, 13, 1783 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69537
3)6953713)231791783)17831ดังนั้น 69537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้69537 = 3 x 13 x 1783วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69537
1แยกตัวประกอบของ 69537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 178312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1783 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 69537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69537 นั้นก็คือ 3, 13, 1783 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69537
3
)69537
13
)23179
1783
)1783
1
ดังนั้น 69537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69537 = 3 x 13 x 1783
1แยกตัวประกอบของ 69537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 17831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1783 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69537 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇