โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68283 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68283

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68283 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68283 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 3, 9, 27, 81, 243, 281, 843, 2529, 7587, 22761, 68283
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68283 ÷ 1=68283เหลือเศษ 0
68283 ÷ 3=22761เหลือเศษ 0
68283 ÷ 9=7587เหลือเศษ 0
68283 ÷ 27=2529เหลือเศษ 0
68283 ÷ 81=843เหลือเศษ 0
68283 ÷ 243=281เหลือเศษ 0
68283 ÷ 281=243เหลือเศษ 0
68283 ÷ 843=81เหลือเศษ 0
68283 ÷ 2529=27เหลือเศษ 0
68283 ÷ 7587=9เหลือเศษ 0
68283 ÷ 22761=3เหลือเศษ 0
68283 ÷ 68283=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68283
1 x 68283
3 x 22761
9 x 7587
27 x 2529
81 x 843
243 x 281
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68283
1 + 3 + 9 + 27 + 81 + 243 + 281 + 843 + 2529 + 7587 + 22761 + 68283 = 102648
ตัวประกอบของ 68283 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 281
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68283 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68283 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 281
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68283 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68283 = 35 x 281
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68283 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68283 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68283 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22761
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68283
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68283 แบบที่หนึ่ง
  • 68283
    • 243
      • 9
        • 3
        • 3
      • 27
        • 3
        • 9
          • 3
          • 3
    • 281

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68283 แบบที่สอง
  • 68283
    • 3
    • 22761
      • 3
      • 7587
        • 3
        • 2529
          • 3
          • 843
            • 3
            • 281
ดังนั้น 68283 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68283 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 281
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68283 = 35 x 281 หรือ 35 x 2811

2. การแยกตัวประกอบของ 68283 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68283 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68283 นั้นก็คือ 3, 281 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68283

3
)68283
3
)22761
3
)7587
3
)2529
3
)843
281
)281
1
ดังนั้น 68283 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68283 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 281
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68283 = 35 x 281 หรือ 35 x 2811

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68283

1แยกตัวประกอบของ 68283 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 35 x 2811
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 281 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68283 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68283 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇