ตัวประกอบของ 65842 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65842
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65842 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65842 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65842 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65842 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65842 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 4703, 9406, 32921, 65842
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65842 ÷ 1 | = | 65842 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 2 | = | 32921 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 7 | = | 9406 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 14 | = | 4703 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 4703 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 9406 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 32921 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65842 ÷ 65842 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65842
1 x 65842 | = | 65842 |
2 x 32921 | = | 65842 |
7 x 9406 | = | 65842 |
14 x 4703 | = | 65842 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65842
1 + 2 + 7 + 14 + 4703 + 9406 + 32921 + 65842 = 112896
▶ ตัวประกอบของ 65842 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 4703
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65842 = 2 x 7 x 4703
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65842 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65842 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65842 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32921
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65842
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65842 แบบที่หนึ่ง
- 65842
- 14
- 2
- 7
- 4703
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65842 แบบที่สอง
- 65842
- 2
- 32921
- 7
- 4703
ดังนั้น 65842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65842 =
2 x 7 x 4703
2. การแยกตัวประกอบของ 65842 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65842 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65842 นั้นก็คือ 2, 7, 4703 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65842
2)658427)329214703)47031ดังนั้น 65842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65842 = 2 x 7 x 4703วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65842
1แยกตัวประกอบของ 65842 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 470312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4703 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65842 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65842 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65842 นั้นก็คือ 2, 7, 4703 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65842
2
)65842
7
)32921
4703
)4703
1
ดังนั้น 65842 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65842 = 2 x 7 x 4703
1แยกตัวประกอบของ 65842 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 47031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4703 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65842 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65842 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇