ตัวประกอบของ 65762 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65762
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65762 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65762 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65762 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65762 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65762 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 131, 251, 262, 502, 32881, 65762
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65762 ÷ 1 | = | 65762 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 2 | = | 32881 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 131 | = | 502 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 251 | = | 262 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 262 | = | 251 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 502 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 32881 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65762 ÷ 65762 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65762
1 x 65762 | = | 65762 |
2 x 32881 | = | 65762 |
131 x 502 | = | 65762 |
251 x 262 | = | 65762 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65762
1 + 2 + 131 + 251 + 262 + 502 + 32881 + 65762 = 99792
▶ ตัวประกอบของ 65762 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 131, 251
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65762 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65762 = 2 x 131 x 251
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65762 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65762 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65762 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32881
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65762
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65762 แบบที่หนึ่ง
- 65762
- 251
- 262
- 2
- 131
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65762 แบบที่สอง
- 65762
- 2
- 32881
- 131
- 251
ดังนั้น 65762 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65762 =
2 x 131 x 251
2. การแยกตัวประกอบของ 65762 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65762 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65762 นั้นก็คือ 2, 131, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65762
2)65762131)32881251)2511ดังนั้น 65762 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65762 = 2 x 131 x 251วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65762
1แยกตัวประกอบของ 65762 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1311 x 25112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65762 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65762 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65762 นั้นก็คือ 2, 131, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65762
2
)65762
131
)32881
251
)251
1
ดังนั้น 65762 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65762 = 2 x 131 x 251
1แยกตัวประกอบของ 65762 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1311 x 2511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65762 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65762 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇