ตัวประกอบของ 6166 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6166
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6166 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6166 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 6166 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6166 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6166 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 3083, 6166
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6166 ÷ 1 | = | 6166 | เหลือเศษ 0 |
6166 ÷ 2 | = | 3083 | เหลือเศษ 0 |
6166 ÷ 3083 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
6166 ÷ 6166 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6166
1 x 6166 | = | 6166 |
2 x 3083 | = | 6166 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6166
1 + 2 + 3083 + 6166 = 9252
▶ ตัวประกอบของ 6166 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 3083
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6166 = 2 x 3083
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6166 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6166 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6166 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3083
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6166
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6166
- 6166
- 2
- 3083
ดังนั้น 6166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6166 =
2 x 3083
2. การแยกตัวประกอบของ 6166 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6166 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6166 นั้นก็คือ 2, 3083 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6166
2)61663083)30831ดังนั้น 6166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6166 = 2 x 3083วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6166
1แยกตัวประกอบของ 6166 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 308312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3083 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6166 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6166 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6166 นั้นก็คือ 2, 3083 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6166
2
)6166
3083
)3083
1
ดังนั้น 6166 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6166 = 2 x 3083
1แยกตัวประกอบของ 6166 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 30831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3083 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6166 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6166 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇