โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5967 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5967

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5967 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5967 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 9, 13, 17, 27, 39, 51, 117, 153, 221, 351, 459, 663, 1989, 5967
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5967 ÷ 1=5967เหลือเศษ 0
5967 ÷ 3=1989เหลือเศษ 0
5967 ÷ 9=663เหลือเศษ 0
5967 ÷ 13=459เหลือเศษ 0
5967 ÷ 17=351เหลือเศษ 0
5967 ÷ 27=221เหลือเศษ 0
5967 ÷ 39=153เหลือเศษ 0
5967 ÷ 51=117เหลือเศษ 0
5967 ÷ 117=51เหลือเศษ 0
5967 ÷ 153=39เหลือเศษ 0
5967 ÷ 221=27เหลือเศษ 0
5967 ÷ 351=17เหลือเศษ 0
5967 ÷ 459=13เหลือเศษ 0
5967 ÷ 663=9เหลือเศษ 0
5967 ÷ 1989=3เหลือเศษ 0
5967 ÷ 5967=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5967
1 x 5967
3 x 1989
9 x 663
13 x 459
17 x 351
27 x 221
39 x 153
51 x 117
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5967
1 + 3 + 9 + 13 + 17 + 27 + 39 + 51 + 117 + 153 + 221 + 351 + 459 + 663 + 1989 + 5967 = 10080
ตัวประกอบของ 5967 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 17
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5967 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5967 = 3 x 3 x 3 x 13 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5967 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5967 = 33 x 13 x 17
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5967 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5967 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5967 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1989
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5967
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5967 แบบที่หนึ่ง
  • 5967
    • 51
      • 3
      • 17
    • 117
      • 9
        • 3
        • 3
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5967 แบบที่สอง
  • 5967
    • 3
    • 1989
      • 3
      • 663
        • 3
        • 221
          • 13
          • 17
ดังนั้น 5967 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5967 = 3 x 3 x 3 x 13 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5967 = 33 x 13 x 17 หรือ 33 x 131 x 171

2. การแยกตัวประกอบของ 5967 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5967 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5967 นั้นก็คือ 3, 13, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5967

3
)5967
3
)1989
3
)663
13
)221
17
)17
1
ดังนั้น 5967 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5967 = 3 x 3 x 3 x 13 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5967 = 33 x 13 x 17 หรือ 33 x 131 x 171

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5967

1แยกตัวประกอบของ 5967 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 33 x 131 x 171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5967 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5967 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇