ตัวประกอบของ 5708 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5708
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5708 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5708 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5708 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5708 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5708 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 1427, 2854, 5708
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5708 ÷ 1 | = | 5708 | เหลือเศษ 0 |
| 5708 ÷ 2 | = | 2854 | เหลือเศษ 0 |
| 5708 ÷ 4 | = | 1427 | เหลือเศษ 0 |
| 5708 ÷ 1427 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 5708 ÷ 2854 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5708 ÷ 5708 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5708
| 1 x 5708 | = | 5708 |
| 2 x 2854 | = | 5708 |
| 4 x 1427 | = | 5708 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5708
1 + 2 + 4 + 1427 + 2854 + 5708 = 9996
▶ ตัวประกอบของ 5708 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1427
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5708 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5708 = 2 x 2 x 1427
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5708 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5708 = 22 x 1427
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5708 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5708 = 22 x 1427
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5708 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5708 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5708 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2854
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5708
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5708 แบบที่หนึ่ง
- 5708
- 4
- 2
- 2
- 1427
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5708 แบบที่สอง
- 5708
- 2
- 2854
- 2
- 1427
ดังนั้น 5708 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5708 =
2 x 2 x 1427
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5708 =
22 x 1427 หรือ 22 x 14271
2. การแยกตัวประกอบของ 5708 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5708 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5708 นั้นก็คือ 2, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5708
2)57082)28541427)14271ดังนั้น 5708 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5708 = 2 x 2 x 1427หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5708 = 22 x 1427 หรือ 22 x 14271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5708
1แยกตัวประกอบของ 5708 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 142712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5708 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5708 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5708 นั้นก็คือ 2, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5708
2
)5708
2
)2854
1427
)1427
1
ดังนั้น 5708 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5708 = 2 x 2 x 1427
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5708 = 22 x 1427 หรือ 22 x 14271
1แยกตัวประกอบของ 5708 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 14271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5708 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5708 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇