ตัวประกอบของ 5633 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5633
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5633 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5633 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 5633 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5633 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5633 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 43, 131, 5633
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5633 ÷ 1 | = | 5633 | เหลือเศษ 0 |
| 5633 ÷ 43 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
| 5633 ÷ 131 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
| 5633 ÷ 5633 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5633
| 1 x 5633 | = | 5633 |
| 43 x 131 | = | 5633 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5633
1 + 43 + 131 + 5633 = 5808
▶ ตัวประกอบของ 5633 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
43, 131
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5633 = 43 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5633 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5633 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5633 มา 1 คู่ เช่น 43 x 131
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5633
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5633
- 5633
- 43
- 131
ดังนั้น 5633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5633 =
43 x 131
2. การแยกตัวประกอบของ 5633 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5633 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5633 นั้นก็คือ 43, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5633
43)5633131)1311ดังนั้น 5633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5633 = 43 x 131วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5633
1แยกตัวประกอบของ 5633 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 431 x 13112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5633 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5633 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5633 นั้นก็คือ 43, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5633
43
)5633
131
)131
1
ดังนั้น 5633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5633 = 43 x 131
1แยกตัวประกอบของ 5633 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 431 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5633 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5633 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇