ตัวประกอบของ 5159 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5159
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5159 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5159 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5159 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5159 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5159 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 11, 67, 77, 469, 737, 5159
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5159 ÷ 1 | = | 5159 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 7 | = | 737 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 11 | = | 469 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 67 | = | 77 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 77 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 469 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 737 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 5159 ÷ 5159 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5159
| 1 x 5159 | = | 5159 |
| 7 x 737 | = | 5159 |
| 11 x 469 | = | 5159 |
| 67 x 77 | = | 5159 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5159
1 + 7 + 11 + 67 + 77 + 469 + 737 + 5159 = 6528
▶ ตัวประกอบของ 5159 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 11, 67
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5159 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5159 = 7 x 11 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5159 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5159 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5159 มา 1 คู่ เช่น 7 x 737
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5159
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5159 แบบที่หนึ่ง
- 5159
- 67
- 77
- 7
- 11
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5159 แบบที่สอง
- 5159
- 7
- 737
- 11
- 67
ดังนั้น 5159 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5159 =
7 x 11 x 67
2. การแยกตัวประกอบของ 5159 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5159 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5159 นั้นก็คือ 7, 11, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5159
7)515911)73767)671ดังนั้น 5159 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5159 = 7 x 11 x 67วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5159
1แยกตัวประกอบของ 5159 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 111 x 6712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5159 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5159 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5159 นั้นก็คือ 7, 11, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5159
7
)5159
11
)737
67
)67
1
ดังนั้น 5159 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5159 = 7 x 11 x 67
1แยกตัวประกอบของ 5159 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 111 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5159 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5159 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇