โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5156 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5156

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5156 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5156 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 1289, 2578, 5156
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5156 ÷ 1=5156เหลือเศษ 0
5156 ÷ 2=2578เหลือเศษ 0
5156 ÷ 4=1289เหลือเศษ 0
5156 ÷ 1289=4เหลือเศษ 0
5156 ÷ 2578=2เหลือเศษ 0
5156 ÷ 5156=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5156
1 x 5156
2 x 2578
4 x 1289
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5156
1 + 2 + 4 + 1289 + 2578 + 5156 = 9030
ตัวประกอบของ 5156 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1289
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5156 = 2 x 2 x 1289
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5156 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5156 = 22 x 1289
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5156 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5156 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5156 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2578
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5156
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5156 แบบที่หนึ่ง
  • 5156
    • 4
      • 2
      • 2
    • 1289

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5156 แบบที่สอง
  • 5156
    • 2
    • 2578
      • 2
      • 1289
ดังนั้น 5156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5156 = 2 x 2 x 1289
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5156 = 22 x 1289 หรือ 22 x 12891

2. การแยกตัวประกอบของ 5156 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5156 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5156 นั้นก็คือ 2, 1289 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5156

2
)5156
2
)2578
1289
)1289
1
ดังนั้น 5156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5156 = 2 x 2 x 1289
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5156 = 22 x 1289 หรือ 22 x 12891

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5156

1แยกตัวประกอบของ 5156 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 12891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 1289 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5156 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5156 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇