ตัวประกอบของ 5118 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5118
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5118 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5118 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5118 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5118 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5118 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 853, 1706, 2559, 5118
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5118 ÷ 1 | = | 5118 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 2 | = | 2559 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 3 | = | 1706 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 6 | = | 853 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 853 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 1706 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 2559 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5118 ÷ 5118 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5118
1 x 5118 | = | 5118 |
2 x 2559 | = | 5118 |
3 x 1706 | = | 5118 |
6 x 853 | = | 5118 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5118
1 + 2 + 3 + 6 + 853 + 1706 + 2559 + 5118 = 10248
▶ ตัวประกอบของ 5118 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 853
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5118 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5118 = 2 x 3 x 853
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5118 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5118 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5118 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2559
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5118
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5118 แบบที่หนึ่ง
- 5118
- 6
- 2
- 3
- 853
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5118 แบบที่สอง
- 5118
- 2
- 2559
- 3
- 853
ดังนั้น 5118 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5118 =
2 x 3 x 853
2. การแยกตัวประกอบของ 5118 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5118 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5118 นั้นก็คือ 2, 3, 853 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5118
2)51183)2559853)8531ดังนั้น 5118 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5118 = 2 x 3 x 853วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5118
1แยกตัวประกอบของ 5118 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 85312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 853 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5118 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5118 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5118 นั้นก็คือ 2, 3, 853 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5118
2
)5118
3
)2559
853
)853
1
ดังนั้น 5118 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5118 = 2 x 3 x 853
1แยกตัวประกอบของ 5118 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 8531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 853 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5118 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5118 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇