ตัวประกอบของ 3263 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3263
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3263 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3263 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 3263 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3263 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3263 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 13, 251, 3263
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3263 ÷ 1 | = | 3263 | เหลือเศษ 0 |
3263 ÷ 13 | = | 251 | เหลือเศษ 0 |
3263 ÷ 251 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
3263 ÷ 3263 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3263
1 x 3263 | = | 3263 |
13 x 251 | = | 3263 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3263
1 + 13 + 251 + 3263 = 3528
▶ ตัวประกอบของ 3263 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 251
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3263 = 13 x 251
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3263 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3263 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3263 มา 1 คู่ เช่น 13 x 251
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3263
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3263
- 3263
- 13
- 251
ดังนั้น 3263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3263 =
13 x 251
2. การแยกตัวประกอบของ 3263 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3263 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3263 นั้นก็คือ 13, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3263
13)3263251)2511ดังนั้น 3263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3263 = 13 x 251วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3263
1แยกตัวประกอบของ 3263 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 25112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3263 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3263 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3263 นั้นก็คือ 13, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3263
13
)3263
251
)251
1
ดังนั้น 3263 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3263 = 13 x 251
1แยกตัวประกอบของ 3263 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 2511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3263 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3263 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇