ตัวประกอบของ 26522 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26522
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26522 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26522 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26522 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26522 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26522 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 89, 149, 178, 298, 13261, 26522
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26522 ÷ 1 | = | 26522 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 2 | = | 13261 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 89 | = | 298 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 149 | = | 178 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 178 | = | 149 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 298 | = | 89 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 13261 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26522 ÷ 26522 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26522
| 1 x 26522 | = | 26522 |
| 2 x 13261 | = | 26522 |
| 89 x 298 | = | 26522 |
| 149 x 178 | = | 26522 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26522
1 + 2 + 89 + 149 + 178 + 298 + 13261 + 26522 = 40500
▶ ตัวประกอบของ 26522 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 89, 149
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26522 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26522 = 2 x 89 x 149
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26522 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26522 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26522 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13261
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26522
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26522 แบบที่หนึ่ง
- 26522
- 149
- 178
- 2
- 89
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26522 แบบที่สอง
- 26522
- 2
- 13261
- 89
- 149
ดังนั้น 26522 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26522 =
2 x 89 x 149
2. การแยกตัวประกอบของ 26522 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26522 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26522 นั้นก็คือ 2, 89, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26522
2)2652289)13261149)1491ดังนั้น 26522 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26522 = 2 x 89 x 149วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26522
1แยกตัวประกอบของ 26522 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 891 x 14912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 89 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26522 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26522 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26522 นั้นก็คือ 2, 89, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26522
2
)26522
89
)13261
149
)149
1
ดังนั้น 26522 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26522 = 2 x 89 x 149
1แยกตัวประกอบของ 26522 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 891 x 1491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 89 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26522 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26522 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
