โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26487 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26487

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26487 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26487 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 3, 9, 27, 81, 109, 243, 327, 981, 2943, 8829, 26487
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26487 ÷ 1=26487เหลือเศษ 0
26487 ÷ 3=8829เหลือเศษ 0
26487 ÷ 9=2943เหลือเศษ 0
26487 ÷ 27=981เหลือเศษ 0
26487 ÷ 81=327เหลือเศษ 0
26487 ÷ 109=243เหลือเศษ 0
26487 ÷ 243=109เหลือเศษ 0
26487 ÷ 327=81เหลือเศษ 0
26487 ÷ 981=27เหลือเศษ 0
26487 ÷ 2943=9เหลือเศษ 0
26487 ÷ 8829=3เหลือเศษ 0
26487 ÷ 26487=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26487
1 x 26487
3 x 8829
9 x 2943
27 x 981
81 x 327
109 x 243
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26487
1 + 3 + 9 + 27 + 81 + 109 + 243 + 327 + 981 + 2943 + 8829 + 26487 = 40040
ตัวประกอบของ 26487 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 109
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26487 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 109
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26487 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26487 = 35 x 109
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26487 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26487 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26487 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8829
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26487
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26487 แบบที่หนึ่ง
  • 26487
    • 109
    • 243
      • 9
        • 3
        • 3
      • 27
        • 3
        • 9
          • 3
          • 3

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26487 แบบที่สอง
  • 26487
    • 3
    • 8829
      • 3
      • 2943
        • 3
        • 981
          • 3
          • 327
            • 3
            • 109
ดังนั้น 26487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26487 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26487 = 35 x 109 หรือ 35 x 1091

2. การแยกตัวประกอบของ 26487 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26487 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26487 นั้นก็คือ 3, 109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26487

3
)26487
3
)8829
3
)2943
3
)981
3
)327
109
)109
1
ดังนั้น 26487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26487 = 3 x 3 x 3 x 3 x 3 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26487 = 35 x 109 หรือ 35 x 1091

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26487

1แยกตัวประกอบของ 26487 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 35 x 1091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26487 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26487 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇