โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26232 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26232

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26232 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26232 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 1093, 2186, 3279, 4372, 6558, 8744, 13116, 26232
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26232 ÷ 1=26232เหลือเศษ 0
26232 ÷ 2=13116เหลือเศษ 0
26232 ÷ 3=8744เหลือเศษ 0
26232 ÷ 4=6558เหลือเศษ 0
26232 ÷ 6=4372เหลือเศษ 0
26232 ÷ 8=3279เหลือเศษ 0
26232 ÷ 12=2186เหลือเศษ 0
26232 ÷ 24=1093เหลือเศษ 0
26232 ÷ 1093=24เหลือเศษ 0
26232 ÷ 2186=12เหลือเศษ 0
26232 ÷ 3279=8เหลือเศษ 0
26232 ÷ 4372=6เหลือเศษ 0
26232 ÷ 6558=4เหลือเศษ 0
26232 ÷ 8744=3เหลือเศษ 0
26232 ÷ 13116=2เหลือเศษ 0
26232 ÷ 26232=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26232
1 x 26232
2 x 13116
3 x 8744
4 x 6558
6 x 4372
8 x 3279
12 x 2186
24 x 1093
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26232
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 1093 + 2186 + 3279 + 4372 + 6558 + 8744 + 13116 + 26232 = 65640
ตัวประกอบของ 26232 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1093
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26232 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1093
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26232 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26232 = 23 x 3 x 1093
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26232 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26232 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26232 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13116
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26232
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26232 แบบที่หนึ่ง
  • 26232
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 1093

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26232 แบบที่สอง
  • 26232
    • 2
    • 13116
      • 2
      • 6558
        • 2
        • 3279
          • 3
          • 1093
ดังนั้น 26232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26232 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1093
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26232 = 23 x 3 x 1093 หรือ 23 x 31 x 10931

2. การแยกตัวประกอบของ 26232 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26232 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26232 นั้นก็คือ 2, 3, 1093 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26232

2
)26232
2
)13116
2
)6558
3
)3279
1093
)1093
1
ดังนั้น 26232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26232 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1093
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26232 = 23 x 3 x 1093 หรือ 23 x 31 x 10931

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26232

1แยกตัวประกอบของ 26232 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 10931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1093 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26232 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26232 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇