โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26104 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26104

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26104 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26104 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 13, 26, 52, 104, 251, 502, 1004, 2008, 3263, 6526, 13052, 26104
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26104 ÷ 1=26104เหลือเศษ 0
26104 ÷ 2=13052เหลือเศษ 0
26104 ÷ 4=6526เหลือเศษ 0
26104 ÷ 8=3263เหลือเศษ 0
26104 ÷ 13=2008เหลือเศษ 0
26104 ÷ 26=1004เหลือเศษ 0
26104 ÷ 52=502เหลือเศษ 0
26104 ÷ 104=251เหลือเศษ 0
26104 ÷ 251=104เหลือเศษ 0
26104 ÷ 502=52เหลือเศษ 0
26104 ÷ 1004=26เหลือเศษ 0
26104 ÷ 2008=13เหลือเศษ 0
26104 ÷ 3263=8เหลือเศษ 0
26104 ÷ 6526=4เหลือเศษ 0
26104 ÷ 13052=2เหลือเศษ 0
26104 ÷ 26104=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26104
1 x 26104
2 x 13052
4 x 6526
8 x 3263
13 x 2008
26 x 1004
52 x 502
104 x 251
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26104
1 + 2 + 4 + 8 + 13 + 26 + 52 + 104 + 251 + 502 + 1004 + 2008 + 3263 + 6526 + 13052 + 26104 = 52920
ตัวประกอบของ 26104 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 251
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26104 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26104 = 2 x 2 x 2 x 13 x 251
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26104 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26104 = 23 x 13 x 251
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26104 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26104 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26104 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13052
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26104
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26104 แบบที่หนึ่ง
  • 26104
    • 104
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 13
    • 251

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26104 แบบที่สอง
  • 26104
    • 2
    • 13052
      • 2
      • 6526
        • 2
        • 3263
          • 13
          • 251
ดังนั้น 26104 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26104 = 2 x 2 x 2 x 13 x 251
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26104 = 23 x 13 x 251 หรือ 23 x 131 x 2511

2. การแยกตัวประกอบของ 26104 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26104 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26104 นั้นก็คือ 2, 13, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26104

2
)26104
2
)13052
2
)6526
13
)3263
251
)251
1
ดังนั้น 26104 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26104 = 2 x 2 x 2 x 13 x 251
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26104 = 23 x 13 x 251 หรือ 23 x 131 x 2511

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26104

1แยกตัวประกอบของ 26104 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 131 x 2511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26104 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26104 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇