ตัวประกอบของ 25687 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25687
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25687 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25687 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25687 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25687 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25687 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 17, 1511, 25687
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25687 ÷ 1 | = | 25687 | เหลือเศษ 0 |
| 25687 ÷ 17 | = | 1511 | เหลือเศษ 0 |
| 25687 ÷ 1511 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 25687 ÷ 25687 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25687
| 1 x 25687 | = | 25687 |
| 17 x 1511 | = | 25687 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25687
1 + 17 + 1511 + 25687 = 27216
▶ ตัวประกอบของ 25687 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
17, 1511
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25687 = 17 x 1511
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25687 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25687 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25687 มา 1 คู่ เช่น 17 x 1511
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25687
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25687
- 25687
- 17
- 1511
ดังนั้น 25687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25687 =
17 x 1511
2. การแยกตัวประกอบของ 25687 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25687 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25687 นั้นก็คือ 17, 1511 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25687
17)256871511)15111ดังนั้น 25687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25687 = 17 x 1511วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25687
1แยกตัวประกอบของ 25687 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 151112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1511 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25687 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25687 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25687 นั้นก็คือ 17, 1511 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25687
17
)25687
1511
)1511
1
ดังนั้น 25687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25687 = 17 x 1511
1แยกตัวประกอบของ 25687 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 15111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1511 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25687 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25687 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇