โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25686 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25686

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25686 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25686 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 1427, 2854, 4281, 8562, 12843, 25686
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25686 ÷ 1=25686เหลือเศษ 0
25686 ÷ 2=12843เหลือเศษ 0
25686 ÷ 3=8562เหลือเศษ 0
25686 ÷ 6=4281เหลือเศษ 0
25686 ÷ 9=2854เหลือเศษ 0
25686 ÷ 18=1427เหลือเศษ 0
25686 ÷ 1427=18เหลือเศษ 0
25686 ÷ 2854=9เหลือเศษ 0
25686 ÷ 4281=6เหลือเศษ 0
25686 ÷ 8562=3เหลือเศษ 0
25686 ÷ 12843=2เหลือเศษ 0
25686 ÷ 25686=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25686
1 x 25686
2 x 12843
3 x 8562
6 x 4281
9 x 2854
18 x 1427
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25686
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 1427 + 2854 + 4281 + 8562 + 12843 + 25686 = 55692
ตัวประกอบของ 25686 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1427
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25686 = 2 x 3 x 3 x 1427
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25686 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25686 = 2 x 32 x 1427
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25686 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25686 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25686 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12843
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25686
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25686 แบบที่หนึ่ง
  • 25686
    • 18
      • 3
      • 6
        • 2
        • 3
    • 1427

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25686 แบบที่สอง
  • 25686
    • 2
    • 12843
      • 3
      • 4281
        • 3
        • 1427
ดังนั้น 25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25686 = 2 x 3 x 3 x 1427
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25686 = 2 x 32 x 1427 หรือ 21 x 32 x 14271

2. การแยกตัวประกอบของ 25686 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25686 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25686 นั้นก็คือ 2, 3, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25686

2
)25686
3
)12843
3
)4281
1427
)1427
1
ดังนั้น 25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25686 = 2 x 3 x 3 x 1427
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25686 = 2 x 32 x 1427 หรือ 21 x 32 x 14271

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25686

1แยกตัวประกอบของ 25686 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 14271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25686 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25686 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇