โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25647 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25647

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25647 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25647 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 83, 103, 249, 309, 8549, 25647
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25647 ÷ 1=25647เหลือเศษ 0
25647 ÷ 3=8549เหลือเศษ 0
25647 ÷ 83=309เหลือเศษ 0
25647 ÷ 103=249เหลือเศษ 0
25647 ÷ 249=103เหลือเศษ 0
25647 ÷ 309=83เหลือเศษ 0
25647 ÷ 8549=3เหลือเศษ 0
25647 ÷ 25647=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25647
1 x 25647
3 x 8549
83 x 309
103 x 249
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25647
1 + 3 + 83 + 103 + 249 + 309 + 8549 + 25647 = 34944
ตัวประกอบของ 25647 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 83, 103
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25647 = 3 x 83 x 103
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25647 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25647 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25647 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8549
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25647
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25647 แบบที่หนึ่ง
  • 25647
    • 103
    • 249
      • 3
      • 83

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25647 แบบที่สอง
  • 25647
    • 3
    • 8549
      • 83
      • 103
ดังนั้น 25647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25647 = 3 x 83 x 103

2. การแยกตัวประกอบของ 25647 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25647 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25647 นั้นก็คือ 3, 83, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25647

3
)25647
83
)8549
103
)103
1
ดังนั้น 25647 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25647 = 3 x 83 x 103

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25647

1แยกตัวประกอบของ 25647 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 831 x 1031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25647 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25647 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇