ตัวประกอบของ 25260 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25260
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25260 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25260 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25260 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25260 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25260 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 10, 12, 15, 20, 30, 60, 421, 842, 1263, 1684, 2105, 2526, 4210, 5052, 6315, 8420, 12630, 25260
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25260 ÷ 1 | = | 25260 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 2 | = | 12630 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 3 | = | 8420 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 4 | = | 6315 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 5 | = | 5052 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 6 | = | 4210 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 10 | = | 2526 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 12 | = | 2105 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 15 | = | 1684 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 20 | = | 1263 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 30 | = | 842 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 60 | = | 421 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 421 | = | 60 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 842 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 1263 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 1684 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 2105 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 2526 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 4210 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 5052 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 6315 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 8420 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 12630 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25260 ÷ 25260 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25260
1 x 25260 | = | 25260 |
2 x 12630 | = | 25260 |
3 x 8420 | = | 25260 |
4 x 6315 | = | 25260 |
5 x 5052 | = | 25260 |
6 x 4210 | = | 25260 |
10 x 2526 | = | 25260 |
12 x 2105 | = | 25260 |
15 x 1684 | = | 25260 |
20 x 1263 | = | 25260 |
30 x 842 | = | 25260 |
60 x 421 | = | 25260 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25260
1 + 2 + 3 + 4 + 5 + 6 + 10 + 12 + 15 + 20 + 30 + 60 + 421 + 842 + 1263 + 1684 + 2105 + 2526 + 4210 + 5052 + 6315 + 8420 + 12630 + 25260 = 70896
▶ ตัวประกอบของ 25260 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 421
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25260 = 2 x 2 x 3 x 5 x 421
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25260 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25260 = 22 x 3 x 5 x 421
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25260 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25260 = 22 x 3 x 5 x 421
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25260 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25260 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25260 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12630
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25260
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25260 แบบที่หนึ่ง
- 25260
- 60
- 6
- 2
- 3
- 10
- 2
- 5
- 6
- 421
- 60
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25260 แบบที่สอง
- 25260
- 2
- 12630
- 2
- 6315
- 3
- 2105
- 5
- 421
ดังนั้น 25260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25260 =
2 x 2 x 3 x 5 x 421
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25260 =
22 x 3 x 5 x 421 หรือ 22 x 31 x 51 x 4211
2. การแยกตัวประกอบของ 25260 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25260 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25260 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 421 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25260
2)252602)126303)63155)2105421)4211ดังนั้น 25260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25260 = 2 x 2 x 3 x 5 x 421หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25260 = 22 x 3 x 5 x 421 หรือ 22 x 31 x 51 x 4211วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25260
1แยกตัวประกอบของ 25260 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 51 x 42112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 421 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25260 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25260 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25260 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 421 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25260
2
)25260
2
)12630
3
)6315
5
)2105
421
)421
1
ดังนั้น 25260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25260 = 2 x 2 x 3 x 5 x 421
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25260 = 22 x 3 x 5 x 421 หรือ 22 x 31 x 51 x 4211
1แยกตัวประกอบของ 25260 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 51 x 4211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 421 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25260 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25260 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇