โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 13048 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13048

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 13048 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 13048 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 233, 466, 932, 1631, 1864, 3262, 6524, 13048
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
13048 ÷ 1=13048เหลือเศษ 0
13048 ÷ 2=6524เหลือเศษ 0
13048 ÷ 4=3262เหลือเศษ 0
13048 ÷ 7=1864เหลือเศษ 0
13048 ÷ 8=1631เหลือเศษ 0
13048 ÷ 14=932เหลือเศษ 0
13048 ÷ 28=466เหลือเศษ 0
13048 ÷ 56=233เหลือเศษ 0
13048 ÷ 233=56เหลือเศษ 0
13048 ÷ 466=28เหลือเศษ 0
13048 ÷ 932=14เหลือเศษ 0
13048 ÷ 1631=8เหลือเศษ 0
13048 ÷ 1864=7เหลือเศษ 0
13048 ÷ 3262=4เหลือเศษ 0
13048 ÷ 6524=2เหลือเศษ 0
13048 ÷ 13048=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13048
1 x 13048
2 x 6524
4 x 3262
7 x 1864
8 x 1631
14 x 932
28 x 466
56 x 233
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13048
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 233 + 466 + 932 + 1631 + 1864 + 3262 + 6524 + 13048 = 28080
ตัวประกอบของ 13048 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 233
การแยกตัวประกอบคืออะไร

13048 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

13048 = 2 x 2 x 2 x 7 x 233
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 13048 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
13048 = 23 x 7 x 233
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 13048 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13048 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13048 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6524
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13048
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13048 แบบที่หนึ่ง
  • 13048
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 233

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13048 แบบที่สอง
  • 13048
    • 2
    • 6524
      • 2
      • 3262
        • 2
        • 1631
          • 7
          • 233
ดังนั้น 13048 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13048 = 2 x 2 x 2 x 7 x 233
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13048 = 23 x 7 x 233 หรือ 23 x 71 x 2331

2. การแยกตัวประกอบของ 13048 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 13048 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13048 นั้นก็คือ 2, 7, 233 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13048

2
)13048
2
)6524
2
)3262
7
)1631
233
)233
1
ดังนั้น 13048 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13048 = 2 x 2 x 2 x 7 x 233
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13048 = 23 x 7 x 233 หรือ 23 x 71 x 2331

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13048

1แยกตัวประกอบของ 13048 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 2331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 233 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13048 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13048 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇