โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 11037 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11037

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 11037 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 11037 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 283, 849, 3679, 11037
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
11037 ÷ 1=11037เหลือเศษ 0
11037 ÷ 3=3679เหลือเศษ 0
11037 ÷ 13=849เหลือเศษ 0
11037 ÷ 39=283เหลือเศษ 0
11037 ÷ 283=39เหลือเศษ 0
11037 ÷ 849=13เหลือเศษ 0
11037 ÷ 3679=3เหลือเศษ 0
11037 ÷ 11037=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11037
1 x 11037
3 x 3679
13 x 849
39 x 283
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11037
1 + 3 + 13 + 39 + 283 + 849 + 3679 + 11037 = 15904
ตัวประกอบของ 11037 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 283
การแยกตัวประกอบคืออะไร

11037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

11037 = 3 x 13 x 283
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 11037 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11037 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11037 มา 1 คู่ เช่น 3 x 3679
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11037
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11037 แบบที่หนึ่ง
  • 11037
    • 39
      • 3
      • 13
    • 283

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11037 แบบที่สอง
  • 11037
    • 3
    • 3679
      • 13
      • 283
ดังนั้น 11037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11037 = 3 x 13 x 283

2. การแยกตัวประกอบของ 11037 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 11037 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11037 นั้นก็คือ 3, 13, 283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11037

3
)11037
13
)3679
283
)283
1
ดังนั้น 11037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11037 = 3 x 13 x 283

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11037

1แยกตัวประกอบของ 11037 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 2831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11037 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11037 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇