โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5352 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5352

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5352 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5352 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 223, 446, 669, 892, 1338, 1784, 2676, 5352
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5352 ÷ 1=5352เหลือเศษ 0
5352 ÷ 2=2676เหลือเศษ 0
5352 ÷ 3=1784เหลือเศษ 0
5352 ÷ 4=1338เหลือเศษ 0
5352 ÷ 6=892เหลือเศษ 0
5352 ÷ 8=669เหลือเศษ 0
5352 ÷ 12=446เหลือเศษ 0
5352 ÷ 24=223เหลือเศษ 0
5352 ÷ 223=24เหลือเศษ 0
5352 ÷ 446=12เหลือเศษ 0
5352 ÷ 669=8เหลือเศษ 0
5352 ÷ 892=6เหลือเศษ 0
5352 ÷ 1338=4เหลือเศษ 0
5352 ÷ 1784=3เหลือเศษ 0
5352 ÷ 2676=2เหลือเศษ 0
5352 ÷ 5352=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5352
1 x 5352
2 x 2676
3 x 1784
4 x 1338
6 x 892
8 x 669
12 x 446
24 x 223
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5352
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 223 + 446 + 669 + 892 + 1338 + 1784 + 2676 + 5352 = 13440
ตัวประกอบของ 5352 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 223
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5352 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5352 = 2 x 2 x 2 x 3 x 223
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5352 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5352 = 23 x 3 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5352 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5352 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5352 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2676
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5352
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5352 แบบที่หนึ่ง
  • 5352
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 223

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5352 แบบที่สอง
  • 5352
    • 2
    • 2676
      • 2
      • 1338
        • 2
        • 669
          • 3
          • 223
ดังนั้น 5352 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5352 = 2 x 2 x 2 x 3 x 223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5352 = 23 x 3 x 223 หรือ 23 x 31 x 2231

2. การแยกตัวประกอบของ 5352 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5352 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5352 นั้นก็คือ 2, 3, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5352

2
)5352
2
)2676
2
)1338
3
)669
223
)223
1
ดังนั้น 5352 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5352 = 2 x 2 x 2 x 3 x 223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5352 = 23 x 3 x 223 หรือ 23 x 31 x 2231

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5352

1แยกตัวประกอบของ 5352 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5352 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5352 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇