ตัวประกอบของ 474630 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 474630
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 474630 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 474630 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 474630 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 474630 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 474630 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 10, 13, 15, 26, 30, 39, 65, 78, 130, 195, 390, 1217, 2434, 3651, 6085, 7302, 12170, 15821, 18255, 31642, 36510, 47463, 79105, 94926, 158210, 237315, 474630
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
474630 ÷ 1 | = | 474630 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 2 | = | 237315 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 3 | = | 158210 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 5 | = | 94926 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 6 | = | 79105 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 10 | = | 47463 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 13 | = | 36510 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 15 | = | 31642 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 26 | = | 18255 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 30 | = | 15821 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 39 | = | 12170 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 65 | = | 7302 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 78 | = | 6085 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 130 | = | 3651 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 195 | = | 2434 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 390 | = | 1217 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 1217 | = | 390 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 2434 | = | 195 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 3651 | = | 130 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 6085 | = | 78 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 7302 | = | 65 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 12170 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 15821 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 18255 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 31642 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 36510 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 47463 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 79105 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 94926 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 158210 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 237315 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
474630 ÷ 474630 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 474630
1 x 474630 | = | 474630 |
2 x 237315 | = | 474630 |
3 x 158210 | = | 474630 |
5 x 94926 | = | 474630 |
6 x 79105 | = | 474630 |
10 x 47463 | = | 474630 |
13 x 36510 | = | 474630 |
15 x 31642 | = | 474630 |
26 x 18255 | = | 474630 |
30 x 15821 | = | 474630 |
39 x 12170 | = | 474630 |
65 x 7302 | = | 474630 |
78 x 6085 | = | 474630 |
130 x 3651 | = | 474630 |
195 x 2434 | = | 474630 |
390 x 1217 | = | 474630 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 474630
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 10 + 13 + 15 + 26 + 30 + 39 + 65 + 78 + 130 + 195 + 390 + 1217 + 2434 + 3651 + 6085 + 7302 + 12170 + 15821 + 18255 + 31642 + 36510 + 47463 + 79105 + 94926 + 158210 + 237315 + 474630 = 1227744
▶ ตัวประกอบของ 474630 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 5 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 13, 1217
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 474630 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474630 = 2 x 3 x 5 x 13 x 1217
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 474630 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 474630 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 474630 มา 1 คู่ เช่น 2 x 237315
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474630
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474630 แบบที่หนึ่ง
- 474630
- 390
- 15
- 3
- 5
- 26
- 2
- 13
- 15
- 1217
- 390
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474630 แบบที่สอง
- 474630
- 2
- 237315
- 3
- 79105
- 5
- 15821
- 13
- 1217
ดังนั้น 474630 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474630 =
2 x 3 x 5 x 13 x 1217
2. การแยกตัวประกอบของ 474630 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 474630 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474630 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 13, 1217 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474630
2)4746303)2373155)7910513)158211217)12171ดังนั้น 474630 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้474630 = 2 x 3 x 5 x 13 x 1217วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 474630
1แยกตัวประกอบของ 474630 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 51 x 131 x 121712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1217 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 x 2 = 32✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474630 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 474630 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474630 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 13, 1217 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474630
2
)474630
3
)237315
5
)79105
13
)15821
1217
)1217
1
ดังนั้น 474630 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474630 = 2 x 3 x 5 x 13 x 1217
1แยกตัวประกอบของ 474630 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 51 x 131 x 12171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1217 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 x 2 = 32✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474630 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 474630 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇