โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25496 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25496

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25496 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25496 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 3187, 6374, 12748, 25496
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25496 ÷ 1=25496เหลือเศษ 0
25496 ÷ 2=12748เหลือเศษ 0
25496 ÷ 4=6374เหลือเศษ 0
25496 ÷ 8=3187เหลือเศษ 0
25496 ÷ 3187=8เหลือเศษ 0
25496 ÷ 6374=4เหลือเศษ 0
25496 ÷ 12748=2เหลือเศษ 0
25496 ÷ 25496=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25496
1 x 25496
2 x 12748
4 x 6374
8 x 3187
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25496
1 + 2 + 4 + 8 + 3187 + 6374 + 12748 + 25496 = 47820
ตัวประกอบของ 25496 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 3187
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25496 = 2 x 2 x 2 x 3187
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25496 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25496 = 23 x 3187
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25496 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25496 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25496 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12748
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25496
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25496 แบบที่หนึ่ง
  • 25496
    • 8
      • 2
      • 4
        • 2
        • 2
    • 3187

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25496 แบบที่สอง
  • 25496
    • 2
    • 12748
      • 2
      • 6374
        • 2
        • 3187
ดังนั้น 25496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25496 = 2 x 2 x 2 x 3187
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25496 = 23 x 3187 หรือ 23 x 31871

2. การแยกตัวประกอบของ 25496 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25496 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25496 นั้นก็คือ 2, 3187 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25496

2
)25496
2
)12748
2
)6374
3187
)3187
1
ดังนั้น 25496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25496 = 2 x 2 x 2 x 3187
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25496 = 23 x 3187 หรือ 23 x 31871

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25496

1แยกตัวประกอบของ 25496 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3187 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25496 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25496 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇