ตัวประกอบของ 160103 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160103
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 160103 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 160103 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 160103 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 160103 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 160103 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 23, 6961, 160103
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 160103 ÷ 1 | = | 160103 | เหลือเศษ 0 |
| 160103 ÷ 23 | = | 6961 | เหลือเศษ 0 |
| 160103 ÷ 6961 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 160103 ÷ 160103 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160103
| 1 x 160103 | = | 160103 |
| 23 x 6961 | = | 160103 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160103
1 + 23 + 6961 + 160103 = 167088
▶ ตัวประกอบของ 160103 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
23, 6961
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 160103 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160103 = 23 x 6961
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 160103 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160103 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160103 มา 1 คู่ เช่น 23 x 6961
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160103
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160103
- 160103
- 23
- 6961
ดังนั้น 160103 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160103 =
23 x 6961
2. การแยกตัวประกอบของ 160103 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 160103 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160103 นั้นก็คือ 23, 6961 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160103
23)1601036961)69611ดังนั้น 160103 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้160103 = 23 x 6961วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160103
1แยกตัวประกอบของ 160103 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 696112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6961 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160103 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 160103 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160103 นั้นก็คือ 23, 6961 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160103
23
)160103
6961
)6961
1
ดังนั้น 160103 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160103 = 23 x 6961
1แยกตัวประกอบของ 160103 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 69611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6961 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160103 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160103 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇