ตัวประกอบของ 160060 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160060
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 160060 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 160060 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 160060 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 160060 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 160060 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 53, 106, 151, 212, 265, 302, 530, 604, 755, 1060, 1510, 3020, 8003, 16006, 32012, 40015, 80030, 160060
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160060 ÷ 1 | = | 160060 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 2 | = | 80030 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 4 | = | 40015 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 5 | = | 32012 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 10 | = | 16006 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 20 | = | 8003 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 53 | = | 3020 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 106 | = | 1510 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 151 | = | 1060 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 212 | = | 755 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 265 | = | 604 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 302 | = | 530 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 530 | = | 302 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 604 | = | 265 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 755 | = | 212 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 1060 | = | 151 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 1510 | = | 106 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 3020 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 8003 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 16006 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 32012 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 40015 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 80030 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
160060 ÷ 160060 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160060
1 x 160060 | = | 160060 |
2 x 80030 | = | 160060 |
4 x 40015 | = | 160060 |
5 x 32012 | = | 160060 |
10 x 16006 | = | 160060 |
20 x 8003 | = | 160060 |
53 x 3020 | = | 160060 |
106 x 1510 | = | 160060 |
151 x 1060 | = | 160060 |
212 x 755 | = | 160060 |
265 x 604 | = | 160060 |
302 x 530 | = | 160060 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160060
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 53 + 106 + 151 + 212 + 265 + 302 + 530 + 604 + 755 + 1060 + 1510 + 3020 + 8003 + 16006 + 32012 + 40015 + 80030 + 160060 = 344736
▶ ตัวประกอบของ 160060 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 53, 151
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 160060 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160060 = 2 x 2 x 5 x 53 x 151
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160060 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160060 = 22 x 5 x 53 x 151
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160060 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160060 = 22 x 5 x 53 x 151
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 160060 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160060 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160060 มา 1 คู่ เช่น 2 x 80030
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160060
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160060 แบบที่หนึ่ง
- 160060
- 302
- 2
- 151
- 530
- 10
- 2
- 5
- 53
- 10
- 302
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160060 แบบที่สอง
- 160060
- 2
- 80030
- 2
- 40015
- 5
- 8003
- 53
- 151
ดังนั้น 160060 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160060 =
2 x 2 x 5 x 53 x 151
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160060 =
22 x 5 x 53 x 151 หรือ 22 x 51 x 531 x 1511
2. การแยกตัวประกอบของ 160060 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 160060 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160060 นั้นก็คือ 2, 5, 53, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160060
2)1600602)800305)4001553)8003151)1511ดังนั้น 160060 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้160060 = 2 x 2 x 5 x 53 x 151หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง160060 = 22 x 5 x 53 x 151 หรือ 22 x 51 x 531 x 1511วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160060
1แยกตัวประกอบของ 160060 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 531 x 15112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160060 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 160060 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160060 นั้นก็คือ 2, 5, 53, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160060
2
)160060
2
)80030
5
)40015
53
)8003
151
)151
1
ดังนั้น 160060 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160060 = 2 x 2 x 5 x 53 x 151
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160060 = 22 x 5 x 53 x 151 หรือ 22 x 51 x 531 x 1511
1แยกตัวประกอบของ 160060 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 531 x 1511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160060 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160060 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇