ตัวประกอบของ 160057 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160057
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 160057 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 160057 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 160057 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 160057 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 160057 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 23, 6959, 160057
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160057 ÷ 1 | = | 160057 | เหลือเศษ 0 |
160057 ÷ 23 | = | 6959 | เหลือเศษ 0 |
160057 ÷ 6959 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
160057 ÷ 160057 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160057
1 x 160057 | = | 160057 |
23 x 6959 | = | 160057 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160057
1 + 23 + 6959 + 160057 = 167040
▶ ตัวประกอบของ 160057 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
23, 6959
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 160057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160057 = 23 x 6959
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 160057 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160057 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160057 มา 1 คู่ เช่น 23 x 6959
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160057
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160057
- 160057
- 23
- 6959
ดังนั้น 160057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160057 =
23 x 6959
2. การแยกตัวประกอบของ 160057 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 160057 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160057 นั้นก็คือ 23, 6959 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160057
23)1600576959)69591ดังนั้น 160057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้160057 = 23 x 6959วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160057
1แยกตัวประกอบของ 160057 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 695912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6959 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160057 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 160057 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160057 นั้นก็คือ 23, 6959 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160057
23
)160057
6959
)6959
1
ดังนั้น 160057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160057 = 23 x 6959
1แยกตัวประกอบของ 160057 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 69591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6959 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160057 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160057 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇