ตัวประกอบของ 160054 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160054
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 160054 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 160054 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 160054 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 160054 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 160054 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 79, 158, 1013, 2026, 80027, 160054
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160054 ÷ 1 | = | 160054 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 2 | = | 80027 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 79 | = | 2026 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 158 | = | 1013 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 1013 | = | 158 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 2026 | = | 79 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 80027 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
160054 ÷ 160054 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160054
1 x 160054 | = | 160054 |
2 x 80027 | = | 160054 |
79 x 2026 | = | 160054 |
158 x 1013 | = | 160054 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160054
1 + 2 + 79 + 158 + 1013 + 2026 + 80027 + 160054 = 243360
▶ ตัวประกอบของ 160054 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 79, 1013
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 160054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160054 = 2 x 79 x 1013
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 160054 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160054 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160054 มา 1 คู่ เช่น 2 x 80027
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160054
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160054 แบบที่หนึ่ง
- 160054
- 158
- 2
- 79
- 1013
- 158
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160054 แบบที่สอง
- 160054
- 2
- 80027
- 79
- 1013
ดังนั้น 160054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160054 =
2 x 79 x 1013
2. การแยกตัวประกอบของ 160054 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 160054 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160054 นั้นก็คือ 2, 79, 1013 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160054
2)16005479)800271013)10131ดังนั้น 160054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้160054 = 2 x 79 x 1013วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160054
1แยกตัวประกอบของ 160054 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 791 x 101312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 79 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1013 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160054 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 160054 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160054 นั้นก็คือ 2, 79, 1013 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160054
2
)160054
79
)80027
1013
)1013
1
ดังนั้น 160054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160054 = 2 x 79 x 1013
1แยกตัวประกอบของ 160054 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 791 x 10131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 79 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1013 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160054 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160054 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇