โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 160047 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160047

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 160047 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 160047 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 17783, 53349, 160047
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160047 ÷ 1=160047เหลือเศษ 0
160047 ÷ 3=53349เหลือเศษ 0
160047 ÷ 9=17783เหลือเศษ 0
160047 ÷ 17783=9เหลือเศษ 0
160047 ÷ 53349=3เหลือเศษ 0
160047 ÷ 160047=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160047
1 x 160047
3 x 53349
9 x 17783
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160047
1 + 3 + 9 + 17783 + 53349 + 160047 = 231192
ตัวประกอบของ 160047 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 17783
การแยกตัวประกอบคืออะไร

160047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

160047 = 3 x 3 x 17783
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160047 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160047 = 32 x 17783
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 160047 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160047 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160047 มา 1 คู่ เช่น 3 x 53349
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160047
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160047 แบบที่หนึ่ง
  • 160047
    • 9
      • 3
      • 3
    • 17783

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160047 แบบที่สอง
  • 160047
    • 3
    • 53349
      • 3
      • 17783
ดังนั้น 160047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160047 = 3 x 3 x 17783
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160047 = 32 x 17783 หรือ 32 x 177831

2. การแยกตัวประกอบของ 160047 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 160047 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160047 นั้นก็คือ 3, 17783 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160047

3
)160047
3
)53349
17783
)17783
1
ดังนั้น 160047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160047 = 3 x 3 x 17783
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160047 = 32 x 17783 หรือ 32 x 177831

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160047

1แยกตัวประกอบของ 160047 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 177831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 17783 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160047 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160047 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇