ตัวประกอบของ 160034 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160034
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 160034 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 160034 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 160034 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 160034 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 160034 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 23, 46, 49, 71, 98, 142, 161, 322, 497, 994, 1127, 1633, 2254, 3266, 3479, 6958, 11431, 22862, 80017, 160034
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160034 ÷ 1 | = | 160034 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 2 | = | 80017 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 7 | = | 22862 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 14 | = | 11431 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 23 | = | 6958 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 46 | = | 3479 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 49 | = | 3266 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 71 | = | 2254 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 98 | = | 1633 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 142 | = | 1127 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 161 | = | 994 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 322 | = | 497 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 497 | = | 322 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 994 | = | 161 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 1127 | = | 142 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 1633 | = | 98 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 2254 | = | 71 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 3266 | = | 49 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 3479 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 6958 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 11431 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 22862 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 80017 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
160034 ÷ 160034 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160034
1 x 160034 | = | 160034 |
2 x 80017 | = | 160034 |
7 x 22862 | = | 160034 |
14 x 11431 | = | 160034 |
23 x 6958 | = | 160034 |
46 x 3479 | = | 160034 |
49 x 3266 | = | 160034 |
71 x 2254 | = | 160034 |
98 x 1633 | = | 160034 |
142 x 1127 | = | 160034 |
161 x 994 | = | 160034 |
322 x 497 | = | 160034 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160034
1 + 2 + 7 + 14 + 23 + 46 + 49 + 71 + 98 + 142 + 161 + 322 + 497 + 994 + 1127 + 1633 + 2254 + 3266 + 3479 + 6958 + 11431 + 22862 + 80017 + 160034 = 295488
▶ ตัวประกอบของ 160034 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 7, 23, 71
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 160034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160034 = 2 x 7 x 7 x 23 x 71
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160034 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160034 = 2 x 72 x 23 x 71
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160034 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160034 = 2 x 72 x 23 x 71
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 160034 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160034 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160034 มา 1 คู่ เช่น 2 x 80017
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160034
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160034 แบบที่หนึ่ง
- 160034
- 322
- 14
- 2
- 7
- 23
- 14
- 497
- 7
- 71
- 322
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160034 แบบที่สอง
- 160034
- 2
- 80017
- 7
- 11431
- 7
- 1633
- 23
- 71
ดังนั้น 160034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160034 =
2 x 7 x 7 x 23 x 71
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160034 =
2 x 72 x 23 x 71 หรือ 21 x 72 x 231 x 711
2. การแยกตัวประกอบของ 160034 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 160034 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160034 นั้นก็คือ 2, 7, 23, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160034
2)1600347)800177)1143123)163371)711ดังนั้น 160034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้160034 = 2 x 7 x 7 x 23 x 71หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง160034 = 2 x 72 x 23 x 71 หรือ 21 x 72 x 231 x 711วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160034
1แยกตัวประกอบของ 160034 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 72 x 231 x 7112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160034 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 160034 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160034 นั้นก็คือ 2, 7, 23, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160034
2
)160034
7
)80017
7
)11431
23
)1633
71
)71
1
ดังนั้น 160034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160034 = 2 x 7 x 7 x 23 x 71
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160034 = 2 x 72 x 23 x 71 หรือ 21 x 72 x 231 x 711
1แยกตัวประกอบของ 160034 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 72 x 231 x 711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160034 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160034 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇