โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 160017 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160017

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 160017 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 160017 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 11, 13, 33, 39, 143, 373, 429, 1119, 4103, 4849, 12309, 14547, 53339, 160017
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160017 ÷ 1=160017เหลือเศษ 0
160017 ÷ 3=53339เหลือเศษ 0
160017 ÷ 11=14547เหลือเศษ 0
160017 ÷ 13=12309เหลือเศษ 0
160017 ÷ 33=4849เหลือเศษ 0
160017 ÷ 39=4103เหลือเศษ 0
160017 ÷ 143=1119เหลือเศษ 0
160017 ÷ 373=429เหลือเศษ 0
160017 ÷ 429=373เหลือเศษ 0
160017 ÷ 1119=143เหลือเศษ 0
160017 ÷ 4103=39เหลือเศษ 0
160017 ÷ 4849=33เหลือเศษ 0
160017 ÷ 12309=13เหลือเศษ 0
160017 ÷ 14547=11เหลือเศษ 0
160017 ÷ 53339=3เหลือเศษ 0
160017 ÷ 160017=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160017
1 x 160017
3 x 53339
11 x 14547
13 x 12309
33 x 4849
39 x 4103
143 x 1119
373 x 429
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160017
1 + 3 + 11 + 13 + 33 + 39 + 143 + 373 + 429 + 1119 + 4103 + 4849 + 12309 + 14547 + 53339 + 160017 = 251328
ตัวประกอบของ 160017 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
3, 11, 13, 373
การแยกตัวประกอบคืออะไร

160017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

160017 = 3 x 11 x 13 x 373
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 160017 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160017 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160017 มา 1 คู่ เช่น 3 x 53339
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160017
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160017 แบบที่หนึ่ง
  • 160017
    • 373
    • 429
      • 13
      • 33
        • 3
        • 11

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160017 แบบที่สอง
  • 160017
    • 3
    • 53339
      • 11
      • 4849
        • 13
        • 373
ดังนั้น 160017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160017 = 3 x 11 x 13 x 373

2. การแยกตัวประกอบของ 160017 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 160017 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160017 นั้นก็คือ 3, 11, 13, 373 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160017

3
)160017
11
)53339
13
)4849
373
)373
1
ดังนั้น 160017 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160017 = 3 x 11 x 13 x 373

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160017

1แยกตัวประกอบของ 160017 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 131 x 3731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 373 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160017 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160017 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇