โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 100532 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100532

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 100532 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 100532 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 41, 82, 164, 613, 1226, 2452, 25133, 50266, 100532
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
100532 ÷ 1=100532เหลือเศษ 0
100532 ÷ 2=50266เหลือเศษ 0
100532 ÷ 4=25133เหลือเศษ 0
100532 ÷ 41=2452เหลือเศษ 0
100532 ÷ 82=1226เหลือเศษ 0
100532 ÷ 164=613เหลือเศษ 0
100532 ÷ 613=164เหลือเศษ 0
100532 ÷ 1226=82เหลือเศษ 0
100532 ÷ 2452=41เหลือเศษ 0
100532 ÷ 25133=4เหลือเศษ 0
100532 ÷ 50266=2เหลือเศษ 0
100532 ÷ 100532=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100532
1 x 100532
2 x 50266
4 x 25133
41 x 2452
82 x 1226
164 x 613
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100532
1 + 2 + 4 + 41 + 82 + 164 + 613 + 1226 + 2452 + 25133 + 50266 + 100532 = 180516
ตัวประกอบของ 100532 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 41, 613
การแยกตัวประกอบคืออะไร

100532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

100532 = 2 x 2 x 41 x 613
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 100532 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
100532 = 22 x 41 x 613
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 100532 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100532 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100532 มา 1 คู่ เช่น 2 x 50266
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100532
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100532 แบบที่หนึ่ง
  • 100532
    • 164
      • 4
        • 2
        • 2
      • 41
    • 613

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100532 แบบที่สอง
  • 100532
    • 2
    • 50266
      • 2
      • 25133
        • 41
        • 613
ดังนั้น 100532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100532 = 2 x 2 x 41 x 613
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100532 = 22 x 41 x 613 หรือ 22 x 411 x 6131

2. การแยกตัวประกอบของ 100532 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 100532 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100532 นั้นก็คือ 2, 41, 613 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100532

2
)100532
2
)50266
41
)25133
613
)613
1
ดังนั้น 100532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100532 = 2 x 2 x 41 x 613
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100532 = 22 x 41 x 613 หรือ 22 x 411 x 6131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100532

1แยกตัวประกอบของ 100532 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 411 x 6131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 613 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100532 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100532 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇