โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 100516 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100516

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 100516 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 100516 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 1933, 3866, 7732, 25129, 50258, 100516
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
100516 ÷ 1=100516เหลือเศษ 0
100516 ÷ 2=50258เหลือเศษ 0
100516 ÷ 4=25129เหลือเศษ 0
100516 ÷ 13=7732เหลือเศษ 0
100516 ÷ 26=3866เหลือเศษ 0
100516 ÷ 52=1933เหลือเศษ 0
100516 ÷ 1933=52เหลือเศษ 0
100516 ÷ 3866=26เหลือเศษ 0
100516 ÷ 7732=13เหลือเศษ 0
100516 ÷ 25129=4เหลือเศษ 0
100516 ÷ 50258=2เหลือเศษ 0
100516 ÷ 100516=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100516
1 x 100516
2 x 50258
4 x 25129
13 x 7732
26 x 3866
52 x 1933
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100516
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 1933 + 3866 + 7732 + 25129 + 50258 + 100516 = 189532
ตัวประกอบของ 100516 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 1933
การแยกตัวประกอบคืออะไร

100516 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

100516 = 2 x 2 x 13 x 1933
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 100516 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
100516 = 22 x 13 x 1933
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 100516 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100516 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100516 มา 1 คู่ เช่น 2 x 50258
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100516
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100516 แบบที่หนึ่ง
  • 100516
    • 52
      • 4
        • 2
        • 2
      • 13
    • 1933

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100516 แบบที่สอง
  • 100516
    • 2
    • 50258
      • 2
      • 25129
        • 13
        • 1933
ดังนั้น 100516 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100516 = 2 x 2 x 13 x 1933
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100516 = 22 x 13 x 1933 หรือ 22 x 131 x 19331

2. การแยกตัวประกอบของ 100516 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 100516 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100516 นั้นก็คือ 2, 13, 1933 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100516

2
)100516
2
)50258
13
)25129
1933
)1933
1
ดังนั้น 100516 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100516 = 2 x 2 x 13 x 1933
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100516 = 22 x 13 x 1933 หรือ 22 x 131 x 19331

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100516

1แยกตัวประกอบของ 100516 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 19331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1933 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100516 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100516 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇