ตัวประกอบของ 100275 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100275
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 100275 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 100275 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 100275 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 100275 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 100275 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 3, 5, 7, 15, 21, 25, 35, 75, 105, 175, 191, 525, 573, 955, 1337, 2865, 4011, 4775, 6685, 14325, 20055, 33425, 100275
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 100275 ÷ 1 | = | 100275 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 3 | = | 33425 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 5 | = | 20055 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 7 | = | 14325 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 15 | = | 6685 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 21 | = | 4775 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 25 | = | 4011 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 35 | = | 2865 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 75 | = | 1337 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 105 | = | 955 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 175 | = | 573 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 191 | = | 525 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 525 | = | 191 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 573 | = | 175 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 955 | = | 105 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 1337 | = | 75 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 2865 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 4011 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 4775 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 6685 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 14325 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 20055 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 33425 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 100275 ÷ 100275 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100275
| 1 x 100275 | = | 100275 |
| 3 x 33425 | = | 100275 |
| 5 x 20055 | = | 100275 |
| 7 x 14325 | = | 100275 |
| 15 x 6685 | = | 100275 |
| 21 x 4775 | = | 100275 |
| 25 x 4011 | = | 100275 |
| 35 x 2865 | = | 100275 |
| 75 x 1337 | = | 100275 |
| 105 x 955 | = | 100275 |
| 175 x 573 | = | 100275 |
| 191 x 525 | = | 100275 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100275
1 + 3 + 5 + 7 + 15 + 21 + 25 + 35 + 75 + 105 + 175 + 191 + 525 + 573 + 955 + 1337 + 2865 + 4011 + 4775 + 6685 + 14325 + 20055 + 33425 + 100275 = 190464
▶ ตัวประกอบของ 100275 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
3, 5, 7, 191
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 100275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100275 = 3 x 5 x 5 x 7 x 191
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 100275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
100275 = 3 x 52 x 7 x 191
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 100275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
100275 = 3 x 52 x 7 x 191
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 100275 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100275 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100275 มา 1 คู่ เช่น 3 x 33425
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100275
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100275 แบบที่หนึ่ง
- 100275
- 191
- 525
- 21
- 3
- 7
- 25
- 5
- 5
- 21
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100275 แบบที่สอง
- 100275
- 3
- 33425
- 5
- 6685
- 5
- 1337
- 7
- 191
ดังนั้น 100275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100275 =
3 x 5 x 5 x 7 x 191
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100275 =
3 x 52 x 7 x 191 หรือ 31 x 52 x 71 x 1911
2. การแยกตัวประกอบของ 100275 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 100275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100275 นั้นก็คือ 3, 5, 7, 191 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100275
3)1002755)334255)66857)1337191)1911ดังนั้น 100275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้100275 = 3 x 5 x 5 x 7 x 191หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง100275 = 3 x 52 x 7 x 191 หรือ 31 x 52 x 71 x 1911วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100275
1แยกตัวประกอบของ 100275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 52 x 71 x 19112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 191 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100275 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 100275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100275 นั้นก็คือ 3, 5, 7, 191 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100275
3
)100275
5
)33425
5
)6685
7
)1337
191
)191
1
ดังนั้น 100275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100275 = 3 x 5 x 5 x 7 x 191
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100275 = 3 x 52 x 7 x 191 หรือ 31 x 52 x 71 x 1911
1แยกตัวประกอบของ 100275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 52 x 71 x 1911
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 191 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100275 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100275 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
