ตัวประกอบของ 100257 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100257
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 100257 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 100257 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 100257 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 100257 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 100257 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 23, 69, 1453, 4359, 33419, 100257
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 100257 ÷ 1 | = | 100257 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 3 | = | 33419 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 23 | = | 4359 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 69 | = | 1453 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 1453 | = | 69 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 4359 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 33419 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 100257 ÷ 100257 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100257
| 1 x 100257 | = | 100257 |
| 3 x 33419 | = | 100257 |
| 23 x 4359 | = | 100257 |
| 69 x 1453 | = | 100257 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100257
1 + 3 + 23 + 69 + 1453 + 4359 + 33419 + 100257 = 139584
▶ ตัวประกอบของ 100257 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 23, 1453
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 100257 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100257 = 3 x 23 x 1453
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 100257 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100257 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100257 มา 1 คู่ เช่น 3 x 33419
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100257
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100257 แบบที่หนึ่ง
- 100257
- 69
- 3
- 23
- 1453
- 69
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100257 แบบที่สอง
- 100257
- 3
- 33419
- 23
- 1453
ดังนั้น 100257 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100257 =
3 x 23 x 1453
2. การแยกตัวประกอบของ 100257 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 100257 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100257 นั้นก็คือ 3, 23, 1453 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100257
3)10025723)334191453)14531ดังนั้น 100257 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้100257 = 3 x 23 x 1453วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100257
1แยกตัวประกอบของ 100257 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231 x 145312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1453 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100257 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 100257 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100257 นั้นก็คือ 3, 23, 1453 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100257
3
)100257
23
)33419
1453
)1453
1
ดังนั้น 100257 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100257 = 3 x 23 x 1453
1แยกตัวประกอบของ 100257 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231 x 14531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1453 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100257 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100257 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
